Last updated: 31 ต.ค. 2567 | 72 จำนวนผู้เข้าชม |
SCGC เร่งปรับตัวมองหาพันธมิตรใหม่ ยกเลิกธุรกิจไม่ทำกำไร
นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วัฏจักรปิโตรเคมีขาลงจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาด และความต้องการเคมีภัณฑ์โลกชะลอตัว ธุรกิจปิโตรเคมีจึงต้องเร่งปรับตัว ในการสร้างขีดความสามารถในการแข่ง โดยกำลังพิจารณายกเลิกการกิจการที่ไม่ทำกำไร โดยอาจจะมีการขายสินทรัพย์ออกไป หรือมองหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมทุนในบางโครงการ
โดยในส่วนของโครงการปิโตรเคมีคอลส์คอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม (LSP) ได้มีการลงทุนเพิ่มเติมอีก 700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,000 ล้านบาท เพื่อที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สามารถเลือกใช้ก๊าซอีเทนเป็นวัตถุดิบในการผลิตปิโตรเคมี ซึ่งมีราคาต่ำกว่าการใช้แนฟธาและโพรเพน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตในปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2570 จะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง
ทั้งนี้ โครงการ LSP ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 และสามารถผลิตได้ 74,000 ตัน แต่เมื่อกลางเดือนตุลาคม จนถึงปัจจุบัน ได้หยุดเดินเครื่องผลิต เพื่อบริหารต้นทุนธุรกิจ เนื่องจาก Margin ไม่ดี โดยคาดว่าจะหยุดเดินเครื่อง 6 เดือน ระหว่างนี้จะมีการประเมินสถานการณ์การกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง หากส่วนต่างราคาวัตถุดิบกับผลิตภัณฑ์ดีขึ้น ก็อาจจะกลับมาผลิตได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่โรงงาน LSP หยุดผลิต จะมีการบริหารจัดการเรื่องแนฟธากับโพรเพน ที่มีสัญญาซื้อขายกับทางประเทศกาต้าร์ และก๊าซอีเทนที่มีสัญญาซื้อขายกับประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีการบริหารจัดการโดยใช้โรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) และโรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) เข้ามาเดินเครื่องรองรับในส่วนนี้
31 ต.ค. 2567
31 ต.ค. 2567
31 ต.ค. 2567
31 ต.ค. 2567