ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

ปตท.สผ. ตั้งงบ 5 ปี กว่า 33,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปตท.สผ. ตั้งงบ 5 ปี 33,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลุยเพิ่มปิโตรเลียมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนปีนี้จะลงทุน 7,819 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในโครงการหลักในพื้นที่เป้าหมาย ทั้งประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และประเทศโอมาน

นางชนมาศ ศาสนนันทน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณการลงทุน 5 ปี (ปี 2568-2572) จำนวน 33,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็น ปี 2568 จำนวน 7,819 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2569 จำนวน 7,666 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2570 จำนวน 6,958 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2571 จำนวน 5,715 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2572 จำนวน 5,429 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปตท.สผ. ยังได้ตั้งงบประมาณ 5 ปี เพิ่มเติมอีกจำนวน 1,747 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง ธุรกิจดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ผ่านบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมขององค์กรในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต

ซึ่งจากแผนงานและการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว ปตท.สผ. คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมจากโครงการปัจจุบัน ดังนี้ ปี 2568 เฉลี่ย 507 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2569 เฉลี่ย 541 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2570 เฉลี่ย 528 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2571 เฉลี่ย 585 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และปี 2572 เฉลี่ย 581 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 จะขับเคลื่อนภายใต้แผนกลยุทธ์ Drive-Decarbonize-Diversify เพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 รวมถึงขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) โดยมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่ง และขยายการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในต่างประเทศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โดยให้ความสำคัญกับแผนงานหลัก ดังนี้
1.เพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากโครงการปัจจุบัน โดยมีโครงการผลิตหลักที่สำคัญเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย ได้แก่ โครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) โครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช)โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการคอนแทร็ค 4 โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้า และโครงการยาดานา ในประเทศเมียนมา นอกจากนี้ยังมีโครงการผลิตหลักในต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ โครงการในประเทศมาเลเซีย และประเทศโอมาน โดยได้จัดสรรรายจ่ายลงทุน จำนวน 3,676ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีแผนงานสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยครอบคลุม Scope 1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงและ Scope 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายระหว่างทางในการลดปริมาณความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากปีฐาน 2563 ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30% และ 50% ภายในปี 2573 และ 2583 ตามลำดับ โดยได้ตั้งงบประมาณสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2568 จำนวน 77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

2.เร่งผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระยะพัฒนา ได้แก่ โครงการสัมปทานกาชาโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2โครงการโมซัมบิกแอเรีย 1 และโครงการพัฒนาในประเทศมาเลเซีย อาทิ โครงการมาเลเซีย เอสเค405บีโครงการมาเลเซีย เอสเค417 และโครงการมาเลเซีย เอสเค438 เป็นต้น ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผนงาน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุนเป็นจำนวน 1,464 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

3.เร่งดำเนินการสำรวจในโครงการปัจจุบัน ทั้งโครงการที่อยู่ในระยะสำรวจโครงการ ในระยะพัฒนา รวมถึงโครงการที่ดำเนินการผลิตแล้ว เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 127 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลของโครงการในประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และประเทศเมียนมา