เอสซีจี คาดราคาน้ำมันยังผันผวนกระทบธุรกิจเคมิคอลส์

Last updated: 26 เม.ย 2563  |  866 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เอสซีจี คาดราคาน้ำมันยังผันผวนกระทบธุรกิจเคมิคอลส์

เอสซีจี คาดราคาน้ำมันยังผันผวนกระทบธุรกิจเคมิคอลส์ ไตรมาสแรก

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า การดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ในไตรมาสแรกปีนี้ ต้องรอดู 2 ปัจจัยหลัก หลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของธุรกิจเคมิคอลส์มีผลประกอบด้วยไม่ค่อยดี โดย 2 ปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบธุรกิจเคมิคอลส์ ประกอบด้วย 1.ราคาน้ำมันซึ่งกระทบโดยตรงกับธุรกิจเคมิคอลส์ เพราะแนฟธาซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักจะอ้างอิงกับราคาน้ำมัน ซึ่งสิ้นปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในขณะที่มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยจะขึ้นมาอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งหากราคาน้ำมันยังสูงขึ้นก็จะกระทบกับราคาแนฟธาให้สูงขึ้นด้วย และ 2.ความต้องการของตลาดโลก ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะต้องรอดูสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยคาดว่าในเดือนมีนาคมนี้น่าจะเห็นความชัดเจน ประกอบกับความต้องการใช้ของจีนจะลดลง

อย่างไรก็ตาม เอสซีจีได้เตรียมแนวทางในการแก้ไขไว้แล้ว โดยจะพยายามหาตลาดใหม่เพิ่มมากขึ้น และพยายามขายสินค้าที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้น

สำหรับงบการเงินรวมก่อนตรวจสอบของเอสซีจี ประจำปี 2561 มีรายได้จากการขาย 478,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 44,748 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งสถานการณ์สงครามการค้า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวน และเงินบาทแข็งค่า จึงส่งผลต่อภาพรวมผลประกอบการของเอสซีจี

ส่วนไตรมาสที่ 4 ปี 2561 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 117,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของตลาดในประเทศของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยมีกำไรสุทธิ 10,468 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ลดลง

ทั้งนี้ ธุรกิจเคมิคอลส์ ในปี 2561 มีรายได้จากการขาย 221,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน จากปริมาณการขายและราคาขายของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 29,166 ล้านบาท ลดลง 29% จากปีก่อน จากวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมลดลง

ขณะที่ไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ธุรกิจเคมิคอลส์มีรายได้จากการขาย 53,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการสุทธิ 5,415 ล้านบาท ลดลง 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมลดลง และมีการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ

สำหรับปีนี้ เอสซีจียังคงเน้น 2 กลยุทธ์หลัก คือ การสร้างเสถียรภาพทางการเงิน (Stability) ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที เพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา

อีกกลยุทธ์ คือ การบริหารจัดการความเติบโตของธุรกิจในระยะยาว (Long-term Growth) โดยนอกจากจะให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม

นอกจากนี้ ยังมุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพชั้นนำในหลายภูมิภาค ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมสอดคล้องกับ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ผ่าน “AddVentures” พร้อมเข้าไปเสริมศักยภาพให้สตาร์ทอัพที่ลงทุนไปแล้ว ทั้งการลงทุนโดยตรงในสตาร์ทอัพ 10 ราย เช่น แพลทฟอร์มที่ช่วยค้นหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเพื่อมาต่อยอดธุรกิจด้านดิจิทัล หรือบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนการลงทุนผ่านกองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพต่างๆ รวมถึงการต่อยอดโครงการร่วมมือเชิงพาณิชย์กับบริษัทด้านเทคโนโลยี เกือบ 100 โครงการ เพื่อนำนวัตกรรมของสตาร์ทอัพเหล่านั้นมาต่อยอดกับธุรกิจหลักหรือสร้างเป็นธุรกิจใหม่ของเอสซีจี ตลอดจนการร่วมมือกับสถาบันวิจัยและพัฒนา (R&D) ทั่วโลก โดยมี Open Innovation Center เป็นศูนย์กลางให้เกิดเครือข่ายการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้น

ส่วนการลงทุนในปีนี้ จะมีเงินลงทุนประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยประมาณ 20,000 ล้านบาท จะลงทุนในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในประเทศเวียดนาม ที่เหลือจะเป็นการลงทุนตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้แล้ว

สำหรับการเติบโตด้านยอดขายในปีนี้คาดว่าอาจจะเติบโตสูงขึ้น 5% หรือติดลบ 5% เพราะมีความผันผวนสูง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้