Last updated: 26 เม.ย 2563 | 1083 จำนวนผู้เข้าชม |
นักประดาน้ำ กฟผ. รวมพลังดำน้ำเก็บขยะใต้ท้องทะเลกระบี่หนุน KRABI GOES GREEN
จังหวัดกระบี่ ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และภาคีเครือข่าย จัดพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ “งดใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและโฟม (No Foam No Single used Plastic) ในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดกระบี่” ครอบคลุมพื้นที่ 3 อุทยานแห่งชาติทางทะเล ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และอุทยานแห่งชาติ ธารโบกขรณี รวมพื้นที่เกาะทั้งหมด 8 เกาะ ได้แก่ เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ เกาะห้อง เกาะเหลาลาดิง เกาะผักเบี้ย และเกาะรอก ภายใต้โครงการ KRABI GOES GREEN โดยมีพันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ. นายทศพร โชติช่วง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาการณ์ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดกระบี่ หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันถุงพลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้สูงและใช้งานในระยะเวลาสั้นมาก แต่กลับใช้เวลาในการย่อยสลายไม่น้อยกว่า 450 ปี ส่วนโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้ ส่งผลให้ปริมาณขยะถุงพลาสติกและโฟมจำนวนมหาศาลตกค้างและไหลลงสู่ทะเล สร้างปัญหาต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตในน้ำ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนอีกด้วย จังหวัดกระบี่ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้กำหนดนโยบาย KRABI GOES GREEN เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน มาโดยตลอด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนเลิกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ภายใน พ.ศ. 2563 การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นพลังแห่งความสามัคคีของพวกเราทุกคนที่ได้ร่วมกัน “ลด เลิก เพื่อโลก” เป็นการทำความดีและคืนความสมดุลให้แก่จังหวัดกระบี่และท้องทะเลไทย
“จังหวัดกระบี่ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกับสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ โดยเฉพาะกองทัพเรือ และ กฟผ. ที่ได้สนับสนุนนักประดาน้ำจิตอาสากว่า 30 คน ร่วมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล การประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งร่วมจัดนิทรรศการด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ตลอดจนผู้ร่วมงานทุกท่าน” ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวย้ำ
ด้าน นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ. กล่าวว่า หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า หน่วยงานด้านพลังงานอย่าง กฟผ. จะมีนักประดาน้ำปฏิบัติงานอยู่ด้วย เพราะหนึ่งในภารกิจสำคัญของ กฟผ. นอกจากการผลิตไฟฟ้าแล้วนั้น คือ ภารกิจการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและเขื่อนของ กฟผ. ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจในการดำน้ำตรวจสอบ ความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน การสำรวจสภาพตะกอนในถังกักเก็บน้ำของโรงไฟฟ้า การเชื่อมและตัดต่ออุปกรณ์ใต้น้ำ ฯลฯ กฟผ. จึงจำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญในด้านการดำน้ำ รวมทั้งทักษะความเชี่ยวชาญในวิชาชีพช่าง ทั้งช่างเชื่อมโลหะ ช่างไฟฟ้า ฯลฯ ในการปฏิบัติภารกิจสำคัญใต้น้ำ เพื่อบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและเขื่อนให้มีสภาพพร้อม ใช้งานอยู่เสมอ
“กฟผ. เชื่อมั่นในศักยภาพของนักประดาน้ำ ว่ามีความสามารถในการดำน้ำด้วยความเป็นมืออาชีพ และมีความปลอดภัยสูง เมื่อทราบถึงนโยบาย KRABI GOES GREEN ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ กฟผ. จึงร่วมสนับสนุนทีมนักประดาน้ำเข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล บริเวณหมู่เกาะทะเลแหวกในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศ และขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมดูแลและรักษาทะเลกระบี่ ให้งดงามอยู่คู่กับคนไทยและประเทศไทยตลอดไป ทั้งนี้ กฟผ. มีโครงการรักษ์ทะเลที่ดำเนินการรณรงค์เก็บขยะชายฝั่ง ปลูกป่าชายเลน และทำปะการังเทียมทุกปี เพื่อร่วมรักษาท้องทะเลไทยอีกด้วย” รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ. กล่าว
สำหรับการรณรงค์ครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมประกาศเจตนารมณ์จังหวัดกระบี่ การกำหนดมาตรการ “ลด เลิก ใช้บรรจุภัณฑ์ถุงพลาสติกและโฟม” กิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเลบริเวณทะเลแหวกในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมนักประดาน้ำ ของ กฟผ.กิจกรรมร่วมเก็บขยะและคัดแยกขยะบนชายหาดนพรัตน์ธารา และการจัดนิทรรศการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างองค์ความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ให้ช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567