บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

Last updated: 19 ธ.ค. 2567  |  2630 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

BGRIM รุกธุรกิจพลังงาน-อุตสาหกรรม-ฟาร์มา เติบโตก้าวกระโดด

บี.กริม ขับเคลื่อน 6 กลุ่มธุรกิจ เติบโตก้าวกระโดด ขึ้นแท่นองค์กรชั้นนำระดับโลก ผนึก “บี.กริม เพาเวอร์” และ “บี.กริม อุตสาหกรรม” ตอบโจทย์ลูกค้าครบวงจร สร้าง “บี.กริม ฟาร์มา” ธุรกิจฐานรากขององค์กร สู่ผู้นำผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพแบบครบวงจร เดินหน้าทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคมไทย

บี.กริม องค์กรที่อยู่เคียงคู่สังคมไทย จากรากฐานปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2421 เติบโตเคียงข้างประเทศไทย เริ่มต้นจากธุรกิจร้านปรุงยา สู่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน วันนี้สยายปีกสู่ 6 กลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจฐานราก ตั้งเป้าสร้าง “บีกริม ฟาร์มา” สู่ผู้นำธุรกิจในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพแบบครบวงจร เผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรใน 5 ปีข้างหน้า ฉลองการเข้าสู่ปีที่ 150 มุ่งเติบโตก้าวกระโดด ขึ้นแท่นองค์กรชั้นนำระดับโลก

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม กล่าวว่า ตลอด 145 ปี บี.กริม มุ่งมั่นในการทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม จากจุดเริ่มต้นธุรกิจร้านปรุงยาสมัยใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 สู่บริษัทที่มีหลากหลายธุรกิจในทุกวันนี้ โดยมี “ดีเอ็นเอ” ของความทันสมัยและก้าวไปไม่หยุดนิ่ง ภายใต้ค่านิยมหลัก 4 ประการ (4Ps Core Values) ประกอบด้วย 1.ความร่วมมือกัน (Partnership) 2.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Pioneering Spirit) 3.การมีทัศนคติที่ดี (Positivity) และ 4.ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) ที่ครอบครัว บี.กริม ยึดถือเป็นวิถีปฏิบัติในการทำงานเสมอมา ซึ่งเสมือนอาวุธที่นำมาประยุกต์เป็นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อปรับเปลี่ยนและรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง พร้อมนำเสนอสิ่งใหม่มาสู่สังคมไทยที่หลากหลาย และวันนี้ บี.กริม ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การริเริ่มขุดคลองชลประทานรังสิตเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร, การนำเข้ายาที่ทำให้คนไทยไม่ต้องป่วยตายโดยไม่จำเป็น, การติดตั้งเครื่องโทรเลขไร้สายเป็นครั้งแรก ตลอดจนกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมและการดำเนินธุรกิจการค้าอื่น ๆ ในวันนี้ บี.กริม ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศสู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลก

บี.กริม ตั้งเป้าหมายการเติบโตของแต่ละธุรกิจ โดยเฉพาะใน 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ระยะยาว “GreenLeap – Global and Green” โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 50% ในปี 2573 และตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา ในปี 2573 และมีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593 หรือ คศ. 2050 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อิตาลี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง และได้เปิดดำเนินการ (COD) แล้วรวม 3,970 เมกะวัตต์ เมื่อรวมโครงการซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีก 12 โครงการ จะมีกำลังการผลิตรวมเป็น 4,623 เมกะวัตต์ โดยความสำเร็จมาจากจุดแข็งในการเป็นผู้นำกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลก

ในปี 2566 มีการขยายโครงการต่าง ๆ ในต่างประเทศจำนวนมาก ที่ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 122.49 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 1,000 เมะวัตต์ บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลไทย จำนวน 15 โครงการ กำลังการผลิตรวม 339.3 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้เตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการพลังงานหมุนเวียนในรอบถัดไปแล้ว

บี.กริม อุตสาหกรรม หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บี.กริม ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยผลการดำเนินงานในปี 2566 มีรายได้เติบโตขึ้น 14% สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอื่นซึ่งเติบโตน้อยกว่า สำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้แก่ ระบบปรับอากาศแคเรียร์ ที่ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจระบบปรับอากาศในประเทศไทย จากการเดินหน้าสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และการสนับสนุนจากพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการเปิดตัวนวัตกรรมและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยที่สามารถเชื่อมต่อระบบ IoT ระบบปรับอากาศแบบ VRF สำหรับอาคาร หรือระบบบริการหลังการขายที่สามารถแจ้งการทำงานผิดปกติโดยอัตโนมัติ เป็นต้น

มีการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดเด่นเรื่องการบริการแบบครบวงจรและรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย พร้อมทางเลือกในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยในปี 2566 บี.กริม ได้ติดตั้งประมาณ 70 หัวชาร์จ ให้แก่หลากหลายผู้ประกอบการ ส่วนปีนี้เน้นขยายธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แพลตฟอร์มของ บี.กริม เอง และปีนี้มีแผนขยายติดตั้งเพิ่มเติมกว่า 100 หัวชาร์จ

ขณะเดียวกันยังมีการขยายธุรกิจไปสู่การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบ EPC ซึ่งเป็นการให้บริการติดตั้งแบบเบ็ดเสร็จ (Turn-Key) ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ขออนุญาต จนจบกระบวนการ และมีการพัฒนาโซลูชันเพื่อสุขภาพที่ดีแก่ผู้ใช้อาคาร (Healthy Living Solution) ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีระบบไฟ UV-C ยับยั้งเชื้อโรคในระบบปรับอากาศ ซึ่งมีการติดตั้งในห้างสรรพสินค้าเครือเซ็นทรัลแล้วกว่า 6 แห่ง และมีแผนขยายไปยังสถานที่ต่างๆ ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในระยะยาวถึง 3 เท่าภายในปี 2573 ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับ บี.กริม ฟาร์มา อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจเรือธงที่ บี.กริม ให้ความสำคัญมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2421 ย้อนกลับไป 145 ปี กับร้านปรุงยาตำรับตะวันตกแห่งแรกของประเทศไทย ในชื่อ “สยามดิสเป็นซารี่” และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นร้านยาหลวงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จุดเริ่มต้นของปรัชญาแห่งการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีของ บี.กริม ที่มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อส่วนรวมและสังคม และวันนี้ด้วยสถานการณ์ด้านสาธารณสุขของประเทศที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษา บี.กริม ได้กลับมาสานต่อธุรกิจฐานรากดังกล่าวภายใต้ “บี.กริม ฟาร์มา” ซึ่งยังคงมุ่งเน้นเจตนารมณ์เดิมที่ชัดเจน นั่นคือการมุ่งสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับผู้คน ส่งเสริมการเข้าถึงยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่มีคุณภาพให้แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดีขึ้น ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่ ยา และเวชภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด 2.กลุ่มยารักษาโรคระบบประสาทและจิตเวช 3.กลุ่มยารักษาโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ 4.กลุ่มยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เวชสำอาง และเครื่องมือแพทย์

นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ - สายงานการเงินและบัญชี บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทฯ คาดว่ากำไรจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 2565 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามา 300 เมกะวัตต์ มาจากโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการโซลาร์ลอยน้ำ และโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ รวมทั้งได้รับอานิสงส์การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ทำให้ต้นทุนลดลง และค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่เพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน บี.กริม มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,970 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 12 โครงการ ทำให้มีกำลังการผลิตรวมเป็น 4,623 เมกะวัตต์

บริษัทฯ คาดว่าในช่วงปี 2567-2573 จะลงทุนเป็นมูลค่ารวม 4.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของ บี.กริม ประมาณ 6.8 หมื่นล้านบาท ที่ปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และจะมีเงินที่จะรับรู้เข้ามาจากโครงการลงทุนต่าง ๆ ประมาณ 4.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงแหล่งเงินอื่น ๆ อาทิ การออกหุ้นกู้ การกู้เงินจากสถาบันการเงิน และเงินจากพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น เพื่อให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 และจะมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 26% และในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 35%

ส่วนปีนี้ตั้งงบลงทุนประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการและโครงการใหม่ โดยตั้งเป้าจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพิ่มขึ้น 600-800 เมกะวัตต์ มีทั้งโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว และโครงการใหม่ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการประเภทไฮบริดทั้งโซลาร์ และพลังน้ำ เบื้องต้นจะเข้าลงทุน 50-100 เมกะวัตต์ และคาดจะปิดดีลในปีนี้ 30-40 เมกะวัตต์

นายนพเดช กรรณสูต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานการลงทุน นวัตกรรม และความยั่งยืน และสายงานธุรกิจในประเทศไทยและมาเลเซีย กล่าวว่า คาดว่าจะมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ โดยจะนำเข้าประมาณ 4-5 คาร์โก คาร์โกละ 50,000-70,000 ตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ 23 โรง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าที่สหรัฐฯ และอัฟริกา เพื่อทำสัญญาซื้อขายระยะยาว ในราคาถูก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้