กระทรวงพลังงาน

รมว.พลังงาน เร่งแก้กฎหมายน้ำมัน เตรียมใช้ พ.ร.บ.ใหม่ ดูแลราคาน้ำมันทั้งระบบ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างร่างกฎหมายใหม่ เพื่อใช้แทน พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ที่ใช้ในการบริหารจัดการสร้างเสถียรภาพด้านราคาน้ำมัน โดยพ.ร.บ.ฉบับใหม่ จะช่วยแก้ไขเรื่องโครงสร้างราคาพลังงานในระยะยาว มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม ซึ่งประชาชนจะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างถูกต้องโปร่งใส เนื่องจากปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิงมีต้นทุนเนื้อน้ำมันและภาษีต่างๆ ทำให้ประชาชนผู้ใช้น้ำมันต้องแบกรับภาระ คาดว่าจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

ทั้งนี้เชื่อว่า การแก้กฎหมายในครั้งนี้จะไม่กระทบกับการค้าเสรีน้ำมัน เพราะถึงแม้การค้าเสรีจะเสรี แต่ก็ต้องมีกรอบ เพราะหากไม่มีกรอบก็จะเป็นการเอาเปรียบ นอกจากนี้ในกรอบกฎหมายจะมีการดึงอำนาจในการกำหนดเพดานภาษีน้ำมันกลับคืนมา โดยมีการตั้งคณะกรรมการ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ขึ้นมาดูแลกำหนดเพดานภาษีน้ำมัน โดยคลังยังเป็นผู้จัดเก็บภาษีน้ำมันอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ให้เก็บภาษีเกินเพดานที่กำหนด ขณะเดียวกันก็บริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อแก้ปัญหากองทุนน้ำมันฯติดลบ ปัจจุบันที่ติดลบมากกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว

“ปัจจุบันภาษีที่เรียกเก็บจากน้ำมันเชื้อเพลิงของไทย มีความซ้ำซ้อน โดยประเทศเพื่อนบ้านที่มีการจัดเก็บภาษีน้ำมันเรียกว่า ภาษีสรรพสามิตมีเพียง 3ประเทศ คือไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม โดยไทยเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 5.99บาทต่อลิตรรวมภาษีท้องถิ่นเป็น 6.50บาทต่อลิตร ขณะที่สิงคโปร์จัดเก็บ 5.50 บาทต่อลิตร และเวียดนาม 1.70บาทต่อลิตร ดังนั้นราคาน้ำมันที่ประชาชนจ่ายไปลิตรละ 30-40 บาท เป็นแค่ค่าเนื้อน้ำมันประมาณ 21 บาทต่อลิตร ดังนั้นการดูแลราคาน้ำมันจึงไม่ได้อยู่แค่กระทรวงพลังงานเพียงที่เดียว”รมว.พลังงาน กล่าว

รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า การดูแลค่าไฟและน้ำมัน เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผานมา ที่ตรึงค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ซึ่งต้องขอบคุณ กกพ. กฟผ.และ ปตท.ที่ทำหน้าที่ดูแลค่าไฟของประชาชน

ขณะที่การตรึงราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลไว้ที่ 33 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ ทางกระทรวงพลังงานได้มีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนอกรอบหลังจากประชุมครม. โดยมีความเห็นพร้องกันว่าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดแนวทาง โดยกระทรวงพลังงานเสนอขอให้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อพยุงให้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกองทุนน้ำมันฯ

ด้านนายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การช่วยแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชนโดยการยืดชำระหนี้ค้างจ่ายเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้าง (AFGAS) ออกไปนั้น ส่งผลกระทบต่องบการเงิน ปตท. ไม่มากนัก

ส่วนความคืบหน้าการปรับแผนธุรกิจ ปตท.คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการบริษัทในเดือนส.ค.นี้ โดยปตท.อยากทำอะไรให้ประเทศไทยแข็งแรง ขณะที่ ปตท.เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ได้มุ่งกำไรระยะสั้น วันนี้ประชาชนมีปัญหาค่าครองชีพการยืดการชำระ AFGAS ของ กฟผ.และ ปตท. ไปเพื่อตรึงค่าไฟฟ้าเท่าเดิมที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ก็เป็นหนทางหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน