ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

Last updated: 16 ส.ค. 2567  |  4674 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

WHA Group มุ่งสู่ Tech & Sustainable Company

WHA Group ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจสีเขียว (Green) โดยยกระดับการดำเนินงานในทุกด้าน สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ ครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ตั้งเป้าการเป็นบริษัท Tech & Sustainable Company เต็มรูปแบบภายในปีนี้ หลังจากเริ่มขับเคลื่อนมา 3 ปี

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า WHA Group กำลังมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น Tech & Sustainable Company เต็มรูปแบบภายในปีนี้ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ และการพัฒนาที่มุ่งสูงธุรกิจสีเขียว (Green) ที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพ และทำให้บริษัทมีความยั่งยืนในอนาคต โดยกำลังมุ่งใช้เทคโนโลยี AI และ Data Analytics มาใช้ทั้งในการยกระดับการดำเนินงานในทุกด้าน ตลอดจนสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการซึ่งเป็นโซลูชันแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ นิคมอุตสาหกรรม, โลจิสติกส์, ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล โซลลูชัน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

การปฏิรูปองค์กรอย่างต่อเนื่องช่วงเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา WHA Group มี 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรม, ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities) และ Logistics หลังจากนั้นก็มีกลุ่มธุรกิจดิจิทัล โซลลูชัน มาสนับสนุน 3 ธุรกิจดั้งเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการพัฒนาทีมงานด้านเทคโนโลยีให้เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความมุ่งมั่นทุ่มเท นำพาองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เริ่มจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับปรุงการดำเนินงาน โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรเป็นฐานรองรับ จากนั้นก็นำเรื่อง Green เข้ามา เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ และนำไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ควบคู่ไปกับการทรานส์ฟอร์มองค์กรและเตรียมความพร้อมให้บุคลากร จนถึงปัจจุบัน

การเป็น Tech & Sustainable Company บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรใหม่ พร้อมให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และโซลูชันที่อิงกับ ESG โดยธุรกิจโลจิสติกส์ มีเรื่องอาคาร LEED ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม มีเรื่อง Smart Eco Industrial ที่หลาย ๆ โครงการจาก WHA Group เริ่มต้นมาจากบุคลากรภายในองค์กร เพราะทุกคนรู้จัก Pain Point เห็นปัญหาจากลูกค้าโดยตรง จึงเป็นที่มาของการใช้เทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้า ต้องเริ่มทำธุรกิจใหม่

ทำให้ตระหนักได้ว่าการดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องมี "Command Centre" หรือศูนย์สั่งการจากส่วนกลาง ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จึงได้พัฒนา Unified Operations Centre (UOC) ที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถบริหารจัดการได้จากส่วนกลาง อาทิ การโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) มีความยาก เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และบางโครงการอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ส่งผลให้การตรวจสอบ การ monitor ทำได้ยาก แต่เมื่อมีการรวมข้อมูลที่ส่วนกลางแล้ว ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีการใช้ Data, AI และ Machine Learning มาช่วยด้วย

การบริหารจัดการน้ำ มีการใช้ Water Forecasting ที่จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งน้ำ พยากรณ์ฝน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบริหารจัดการน้ำได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า มี RO System Performance Forecasting ใช้ Data Analytics ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสีย และสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

เรื่องไฟฟ้า มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงาน RENEX ที่เป็น Peer to Peer Energy Trading ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ลูกค้าที่มีการติดตั้ง Solar Roof และมีปริมาณไฟฟ้าเหลือ สามารถที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ไฟฟ้า ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้ากันได้ โดยใช้การประมูลในระบบใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีโครงการที่ทดลองดำเนินการอยู่ภายใต้โครงการ ERC Sandbox ซึ่งในอนาคตอาจใช้ได้จริงลูกค้าภายนอกนิคมอุตสาหกรรม

AI Transformation การใช้เทคโนโลยี AI ในการพลิกโฉมและยกระดับศักยภาพธุรกิจ ประกอบด้วย Solar Anomaly ตรวจจับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแผงโซลาร์เพื่อการดูแลรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ Solar Forecasting ประเมินและคาดการณ์ปริมาณแสงแดดล่วงหน้า เพื่อการวางแผนเพิ่มปริมาณการผลิตพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

Mobilix Green Logistic Solution ครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ซึ่งนอกจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังช่วยประหยัดต้นทุนการขนส่งที่เป็นต้นทุนหลักของประเทศอีกด้วย ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน

Mobilix Software Solution ที่เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ที่สามารถคำนวณปริมาณพลังงานที่ต้องการใช้ในแต่ละการเดินทางได้อีกด้วย และจุดเด่นอีกอย่างคือเรื่องของ Battery Optimization ที่แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถคำนวนได้ด้วยว่าจะต้องชาร์จอย่างไรให้ดีต่อการยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุด ทำให้สามารถใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย WHAUP อยู่ใน Ecosystem ของ Mobilix ในส่วนของ Charger ซึ่งความพิเศษ คือ Charger มีกำลังไฟฟ้า 360 กิโลวัตต์ ซึ่งต่างจาก Charger ทั่วไปที่มีกำลังไฟฟ้าที่ 120 กิโลวัตต์ โดย Charger จะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาคลังสินค้า

นี่คือสิ่งที่ WHA Group พยายามพัฒนาขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และวันนี้ทำให้เราได้เห็นศักยภาพการเติบโต ความเข้มแข็ง และความพยายามในการที่จะทำธุรกิจให้เป็นสีเขียวเพื่อความยั่งยืนในอนาคต นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีต่อตัวบริษัทเท่านั้น แต่ยังดีกับลูกค้า ดีกับคนทั่วไป ดีกับประเทศของเรา และดีกับโลกของเราด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้