พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

GC กำลังพิจารณาทิ้ง Vencorex และ Asahi หลังบุ๊กขาดทุนด้อยค่าทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ขณะที่ allnex ยังสร้างผลกำไรโตต่อเนื่อง ส่วนโรงงาน SAF ที่ร่วมกับ OR เดินเครื่อง ม.ค.68

นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ในส่วนของ Vencorex FranceS.A.S.U และ Vencorex TDI S.A.S.U ที่ GC ถือหุ้น 100% และ บริษัท PTT Asahi Chemical ที่ GC ถือหุ้น 50% ร่วมกับ บริษัท อาเซาฮี คาเซอิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 50% โดยจะตั้งด้อยค่าสินทรัพย์รวมกันทั้งหมดประมาณไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ โดยในส่วนของพันธมิตรญี่ปุ่นได้มีการตัดสินใจบันทึกด้อยค่าใน PTT Asahi ไปแล้ว เป็นขาดทุน 4 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 9,326 ล้านเยน

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัททั้งสามไม่ค่อยดี ซึ่งทาง Vencorex France และ Vencorex TDI ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส (Commercial Court in Lyon) เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างทางธุรกิจในชั้นศาล ตามกฎหมายของประเทศฝรั่งเศส (Book VI of the French Commercial Code) ไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา และในวันที่ 10 กันยายน 2567 Commercial Court in Lyon ได้มีคำสั่งรับคำร้องของ Vencorex France และVencorex TDI ในการเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว

ซึ่งบริษัทฯ คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน โดยในระหว่างกระบวนการ บริษัทย่อยดังกล่าวจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติเพื่อส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ กับบริษัทย่อยดังกล่าวจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับ PTT Asahi เป็นโรงงานปิโตรเคมีเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก ที่ผลิตสารอะคริโลไนไตรล์ (AN) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตพลาสติกและเส้นใยอะคริลิค โดยใช้ก๊าซโพรเพนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ โรงงานตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง

ส่วน Vencorex ทาง บริษัท PTTGC International (Netherlands) B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100% ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมใน บริษัท Vencorex Holding เป็น 100% ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่ง Vencorex เป็นผู้ผลิตและเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในการผลิต Isocyanate โดยเฉพาะเคมีภัณฑ์ในกลุ่ม HDL และ HDI Derivatives ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตพลาสติก PU ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการผลิตโฟม และสารเคลือบในอุตสาหกรรมยานยนต์และสิ่งก่อสร้าง ปัจจุบัน Vencorex มีโรงงานผลิตในประเทศฝรั่งเศส ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย

ทางบริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการปรับพอร์ต์ฟอลิโอให้มีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ Specialty และ High Value Product มากขึ้น โดยกำลังพิจารณาว่าธุรกิจไหนที่มี EBITDA ติดลบ ก็อาจจะมีการขายออกไปหรืออาจจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างไร โดยจะมีการหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับธุรกิจ allex ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจ Coating Resins ที่ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับสากล ด้วยการผสานนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีทันสมัยเข้าด้วยกันบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยมีโรงงาน 33 แห่ง และศูนย์การวิจัยและเทคโนโลยี 23 แห่งทั่วโลก มีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่อง มี EBITDA เป็นบวก ซึ่งจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ที่มีการขยายกำลังการผลิตจาก 7,500 ตันต่อปี เป็น 25,500 ตันต่อปี ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2568 และอยู่ระหว่างพิจารณาขยายเพิ่มถึง 450,000-500,000 ตันต่อปี

GC ยังเดินหน้าศึกษาโอกาสทางการตลาดและกลยุทธ์การขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน เฟส 1 ซึ่งจะมีกำลังการผลิต 500,000 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 20,000 ตันต่อปี คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้เดือนมกราคม 2568

บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตเคมีภัณฑ์มูลค่าสูง (HVP) โดยจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากปัจจุบันมีกว่า 10% ภายใน 3-5 ปีนี้ โดยจะเน้นพลาสติกเกรดพิเศษ และทุ่นลอยน้ำ