Last updated: 18 ธ.ค. 2567 | 345 จำนวนผู้เข้าชม |
ราคาน้ำมันในประเทศไทยมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ?
ราคาน้ำมันขายปลีกที่ผู้บริโภคจ่ายมี 3 ส่วนหลัก ๆ มีดังนี้
ต้นทุนเนื้อน้ำมัน (70%) คือ ส่วนของราคาน้ำมันที่มาจากต้นทุนการผลิตและการแปรรูปน้ำมันดิบให้เป็นน้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งประกอบด้วย
• ราคาน้ำมันดิบ ที่ซื้อมาจากตลาดโลก เป็นต้นทุนหลักในการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยน
• ค่าการกลั่น ค่าใช้จ่ายในการแปรรูปน้ำมันดิบให้เป็นน้ำมันสำเร็จรูป เช่น เบนซินหรือดีเซล
ภาษีและกองทุน (25%) รัฐบาลมีนโยบายในการเก็บภาษีและเงินส่งเข้ากองทุนต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย
• ภาษีสรรพสามิต ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากการขายน้ำมัน
• ภาษีเทศบาล ภาษีที่นำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับท้องถิ่น
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีที่เรียกเก็บจากการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในแต่ละขั้นตอนการผลิต
• เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เงินที่เรียกเก็บเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันภายในประเทศ หากาคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนมาก
• เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เงินที่เรียกเก็บเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทน
ค่าการตลาด (5%) คือ ส่วนแบ่งจากการขายน้ำมันที่ผู้ค้าปลีกน้ำมันจะได้รับ ซึ่งยังไม่ใช่กำไรสุทธิของผู้ค้าปลีกน้ำมัน เพราะยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งของบริษัทผู้ค้าและเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน เช่น ค่าที่ดิน ค่าขนส่ง ค่าจ้างพนักงาน ค่าสาธารณูปโภค ค่าบริหารจัดการต่าง ๆ ภายในสถานี ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายและการตลาด และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งหลังจากหักค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้ว จึงเป็นกำไรของสถานีบริการ ที่บริษัทผู้ค้าน้ำมันต้องแบ่งกับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน
เมื่อรวมส่วนประกอบทั้งสามกลุ่มนี้เข้าด้วยกัน จะได้เป็นราคาสุดท้ายที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเมื่อซื้อน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทย
19 ธ.ค. 2567
20 ธ.ค. 2567
21 ธ.ค. 2567
31 ม.ค. 2567