ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.-ปตท.สผ.-โออาร์ ประกาศงบลงทุน 5 ปี

ปลายปีที่ผ่านมา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ 2 บริษัท คือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ได้ประกาศงบลงทุน 5 ปี (ปี 2568-2572) รวมกันกว่า 1.3 ล้านล้านบาท โดย ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ตั้งงบลงทุนรวม 54,463 ล้านบาท ขณะที่ ปตท.สผ. จัดสรรงบประมาณการลงทุนประมาณ 1,150,606 ล้านบาท และโออาร์ ตั้งงบลงทุนรวม 60,404.6 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทในเครืออื่น ๆ ยังไม่ได้ประกาศงบลงทุน 5 ปีใหม่

สำหรับ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ได้จัดสรรงบลงทุน ปี 2568 จำนวน 25,627 ล้านบาท ปี 2569 จำนวน 12,636 ล้านบาท ปี 2570 จำนวน 7,324 ล้านบาท ปี 2571 จำนวน 4,037 ล้านบาท และปี 2572 จำนวน 4,839 ล้านบาท เพื่อใช้ในธุรกิจก๊าซฯ 10,539 ล้านบาท คิดเป็น 19% ธุรกิจท่อส่งก๊าซฯ 16,782 ล้านบาท คิดเป็น 31% ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 7,679 ล้านบาท คิดเป็น 14% ธุรกิจใหม่และความยั่งยืนและสำนักงานใหญ่ 6,813 ล้านบาท คิดเป็น 13% และการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อยู่ที่ 12,650 ล้านบาท คิดเป็น 23%

โดยเงินลงทุนหลัก ๆ จะลงทุนในธุรกิจก๊าซฯ ธุรกิจท่อส่งก๊าซฯ และธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย คิดเป็นสัดส่วน 64% ของงบลงทุนรวม มีโครงการหลัก เช่น โครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 7 และการลงทุนในการขยายธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ส่วนการลงทุนผ่านบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% เช่น การลงทุนของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3

สำหรับ ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณการลงทุน 5 ปี จำนวน 33,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 1,150,606 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 2 มกราคม 2568) แบ่งเป็น ปี 2568 จำนวน 7,819 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2569 จำนวน 7,666 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2570 จำนวน 6,958 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2571 จำนวน 5,715 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปี 2572 จำนวน 5,429 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

และตั้งงบประมาณเพิ่มเติมอีก 1,747 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง ธุรกิจดักจับและกักเก็บคาร์บอน ธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ผ่านบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานในรูปแบบ Corporate Venture Capital ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมขององค์กรในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต

โดยคาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 5 ปี ที่ 507, 541, 528, 585 และ 581 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน ตามลำดับ

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 ประกอบด้วย
1.เพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากโครงการปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ เช่น โครงการจี 1/61 โครงการจี 2/61 โครงการในเมียนมา มาเลเซีย และโอมาน โดยได้จัดสรรรายจ่ายลงทุน 3,676 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และแผนงานสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 68 จำนวน 77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
2.เร่งผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระยะพัฒนา ได้แก่ โครงการสัมปทานกาชาโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2โครงการโมซัมบิกแอเรีย 1 และโครงการพัฒนาในประเทศมาเลเซีย เช่น โครงการมาเลเซีย เอสเค405บีโครงการมาเลเซีย เอสเค417 และโครงการมาเลเซีย เอสเค438 เป็นต้น ให้ผลิตได้ตามแผนงาน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 1,464 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3.เร่งดำเนินการสำรวจในโครงการปัจจุบัน ทั้งโครงการที่อยู่ในระยะสำรวจโครงการ ในระยะพัฒนา รวมถึงโครงการที่ดำเนินการผลิตแล้ว เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 127 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลของโครงการในประเทศไทย มาเลเซีย และเมียนมา

ส่วน โออาร์ ประกาศงบลงทุน 5 ปี จำนวน 60,404.6 ล้านบาท และอนุมัติงบลงทุนในอนาคต ระยะ 5 ปี อีก 5,081 ล้านบาท เพื่อการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

โดยปี 2568 จะใช้งบลงทุน 18,886.9 ล้านบาท แบ่งเป็น Mobility 7,656.7 ล้านบาท Lifestyle 7,280.4 ล้านบาท Global 2,771.8 ล้านบาท และ Innovation & New Business 1,178 ล้านบาท

ซึ่งโออาร์มีแผนลงทุนในธุรกิจหลัก มุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำในประเทศไทยในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ด้วยการขยายเครือข่ายสถานีบริการ เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน เตรียมความพร้อมในการขยายจากธุรกิจน้ำมัน สู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต เช่น การสร้างเครือข่ายสถานี ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ และพลังงานทางเลือกอื่นในอนาคต

กลุ่มธุรกิจ Lifestyle มุ่งเน้นการเพิ่มความแข็งแกร่งของร้าน Cafe Amazon ตลอด Value Chain หาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจไลฟ์สไตล์อื่นๆ รวมถึงศึกษาธุรกิจ Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง

กลุ่มธุรกิจ Global ยังเน้นลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยมีแผนลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งในโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ และแสวงหาโอกาสการเติบโตไปยังประเทศใหม่ โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ และยังแสวงหาธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสนับสนุนต่อยอดในธุรกิจปัจจุบัน

ส่วนปี 2569 จะใช้งบลงทุน 13,447.7 ล้านบาท ปี 2570 จะใช้งบลงทุน 9.855.4 ล้านบาท ปี 2571 จะใช้งบลงทุน 9,812 ล้านบาท และปี 2572 จะใช้งบลงทุน 8,402.6 ล้านบาท