Last updated: 26 เม.ย 2563 | 982 จำนวนผู้เข้าชม |
เอ็กโก กรุ๊ป พัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยองเป็นนิคมอุตสาหกรรม EEC
เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเดินหน้าพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยองเป็นนิคมอุตสาหกรรม EEC เผยกำไรจากการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 2562 จำนวน 2,915 ล้านบาท
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงาน และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยอง จ.ระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรม EEC ในลักษณะ Smart Industrial Estate เพื่อรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยโรงไฟฟ้าระยอง เป็นโรงไฟฟ้าเก่าที่ไม่ได้รับการต่ออายุสัญญาแล้ว ทำให้มีพื้นที่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบกับในพื้นที่บริเวณนั้น รัฐบาลกำลังพัฒนาเป็น EEC เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเพิ่มมากขึ้น เอ็กโก กรุ๊ป จึงพร้อมที่จะพัฒนานิคมฯ EEC เพื่อมารองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทฯ มีกําไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จํานวน 2,915 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2561 จํานวน 13,223 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมกําไรจากการขายเงินลงทุน จํานวน 14,162 ล้านบาท บริษัทฯ มีกําไรจากการดําเนินงานปกติก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จํานวน 939 ล้านบาท คิดเป็น 47% โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จํานวน 1,028 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี และ น้ำเทิน 1 ในสปป.ลาว และโรงไฟฟ้า ซานบัวนาเวนทูรา ในประเทศฟิลิปปินส์ มีความก้าวหน้าตามแผนงาน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามกำหนด ในช่วงปลายปี 2562 และปี 2565 ตามลำดับ
โดยล่าสุด ณ 30 เมษายน 2562 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 27 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,154 เมกะวัตต์ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 544 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อน ใต้พิภพ
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567
26 ธ.ค. 2567