Last updated: 26 เม.ย 2563 | 688 จำนวนผู้เข้าชม |
พพ.เปิดเวทีประชาพิจารณ์ ระดมความคิดเห็นภาคประชาชน จ.เชียงใหม่
ร่วมถกแผน AEDP 2018 หนุนใช้พลังงานทดแทนเพิ่มร้อยละ30 ในปี 2580
พพ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2018) ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อกำหนดแผนการใช้พลังงานทดแทนในสัดส่วนร้อยละ 30 ภายในปี2580 สอดรับกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาคตามแผน PDP 2018
นายวันชัย บรรลือสินธุ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พพ. ได้จัดสัมมนา “เวทีรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561 – 2580 (AEDP 2018)” โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในแผนการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นให้สอดรับกับนโยบายและเป้าหมายของกระทรวงพลังงานที่กำหนดแผนการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนให้เกิดขึ้นในระดับไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของการใช้พลังงานทั้งหมด ทั้งนี้ การเดินสายรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น และภาคตะวันออก ที่จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นจะมีเวทีสรุปความเห็นอีกครั้งที่กรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรวบรวมความคิดเห็นจากทั่วประเทศได้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2562
ทั้งนี้แผน AEDP 2018 ได้กำหนดเป้าหมายให้มีพลังงานทดแทนเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ภายในปี 2580 หรือคิดเป็นประมาณ 29,358 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการผลิตพลังงานทดแทนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล พลังงานลม พลังงานขยะ พลังงานน้ำ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการนำกลับไปพิจารณาปรับปรุง (ร่าง) แผน AEDP2 018 ดังกล่าว ให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 (PDP 2018) และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้เป็นรูปธรรมตามความต้องการใช้พลังงานในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น
“พพ.ในฐานะเป็นหน่วยงานในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ได้ดำเนินงานตามแนวทางของกระทรวงพลังงานที่ต้องการให้ทุกภูมิภาคเห็นความสำคัญในการใช้พลังงานทดแทนสอดรับกับแหล่งเชื้อเพลิงที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงานของแต่ละภูมิภาค โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของเขตเมือง ซึ่งพลังงานทดแทน ถือเป็นแนวทางของการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดที่สามารถลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย” นายวันชัยกล่าว
20 ธ.ค. 2567
20 ธ.ค. 2567
21 ธ.ค. 2567
21 ธ.ค. 2567