Last updated: 26 เม.ย 2563 | 644 จำนวนผู้เข้าชม |
ปตท.คาดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอาจทรงตัว
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังผลการดำเนินน่าจะทรงตัว หรืออาจจะดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมองว่าในช่วงไตรมาส2 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทและบริษัทลูกได้มีการปรับตัว และปรับพอร์ตเพื่อรับมือกับปัญหาสงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิปีนี้อาจจะต่ำกว่า 1.2 แสนล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 5.53 หมื่นล้านบาท ลดลง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเชื่อว่ายังอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่คงไม่ถึงเท่ากับปีที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีมีผลการดำเนินการลดลง รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีต้นทุนสูงขึ้น ส่วนธุรกิจที่ยังมีการเติบโตได้ดี คือ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จึงทำให้บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่ดี
ทั้งนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ช่วงครึ่งปีหลังและทั้งปีจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากในช่วงครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนค่าการกลั่นก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ที่ 3.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ส่วนต่างของธุรกิจปิโตรเคมียังมีแนวโน้มอ่อนตัว ส่วนธุรกิจค้าปลีกก็มีทิศทางที่ดี เพราะได้มีการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอินโดจีนมากขึ้น
สำหรับการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังยังเหลือเม็ดเงินลงทุนอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแผน อาทิ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ , คลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ,การลงทุนในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เป็นต้น หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกได้ใช้เงินไปแล้วประมาณ 3 หมื่นล้านบาทเช่นกัน
นายชาญศิลป์ ยืนยันด้วยว่า บริษัทยังเดินหน้าแผนผลักดัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ต่อไปตามแผน เพียงแต่ต้องพิจารณาในช่วงที่เหมาะสม
20 ธ.ค. 2567
21 ธ.ค. 2567
21 ธ.ค. 2567
20 ธ.ค. 2567